Skootar1

SKOOTAR ผู้พลิกโฉมแมสเซนเจอร์ไทยเพื่อคนไทย

“SKOOTAR” สตาร์ทอัพสัญชาติไทย ผู้ให้บริการเรียกแมสเซนเจอร์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยการหาโซลูชั่นจากความต้องการของลูกค้าและเครือข่ายแมสเซนเจอร์ให้มาเจอกันพร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการแบบมืออาชีพ รวดเร็ว ทันใจ ไร้ข้อผิดพลาด จึงทำให้ SKOOTAR สามารถเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวจริงของสนามผู้ให้บริการแอปแมสเซนเจอร์ในไทยท่ามกลางผู้เล่นจากต่างประเทศได้สำเร็จ ม.ล. กมลพฤทธิ์ ชุมพล (คุณโก้) CEO จาก SKOOTAR จะมาแชร์วิธีคิดในการบุกเบิกธุรกิจ ตลอดจนการขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

skootar info

รู้จัก SKOOTAR ยกระดับแมสเซนเจอร์ไทยให้เป็นมือโปร

SKOOTAR บริการเรียกแมสเซนเจอร์ออนไลน์ เป็นสตาร์ทอัพของไทย ก่อตั้งโดย บริษัท สกู๊ตตาร์ บียอนด์ จำกัด เริ่มพัฒนาตั้งแต่กลางปี 2014 โดยพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายแมสเซนเจอร์ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ให้บริการในการ รับ-ส่งเอกสาร เก็บเช็ค วางบิลหรือส่งของอื่นๆ ภายในหนึ่งวัน สามารถเรียกใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ด้วยราคาที่เป็นมาตรฐาน คำนวณตามระยะทางจริง พร้อมมีระบบติดตามความคืบหน้าและประเมินผลงานของพนักงาน เพื่อผู้ใช้บริการได้คนขับที่ดีที่สุดเท่านั้น รวมถึงมีการประกันอุบัติเหตุและประกันของเสียหาย ชำระเงินสะดวกผ่านหลายช่องทาง รวมถึงมีระบบวางบิลสำหรับลูกค้าบริษัทและมีการออกใบเสร็จให้ทุกครั้งที่ใช้บริการ สนใจบริการดูที่นี่ SKOOTAR

เริ่มต้นจาก Pain Point สู่ธุรกิจแมสเซนเจอร์ไทย

จุดกำเนิดของสตาร์ทอัพสัญชาติไทยอย่าง SKOOTAR คุณโก้เล่าว่า เริ่มต้นจากคุณโก้และหุ้นส่วนอีกสองคน มองเห็นปัญหาว่า SMEs จำนวนมากมักมีงานด้านเอกสาร ทั้งรับ-ส่งเอกสาร วาง-รับบิล รับเช็ค การส่งรายงาน ซึ่งหากมองดูผิวเผินอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กแต่สำหรับ SMEs นั้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าหากวางบิลไม่ทันกำหนดก็ส่งผลให้ได้รับเงินช้าหรืออาจต้องรอกำหนดรอบวางบิลเดือนถัดไป ซึ่งการรักษากระแสเงินสดสำหรับธุรกิจ SMEs เป็นสิ่งที่สำคัญ

SMEs ส่วนใหญ่จึงต้องหาทางออกด้วยการมีแมสเซนเจอร์เจ้าประจำ เพื่อเรียกใช้งานจะได้ลดข้อผิดพลาดและเข้าใจในระบบไม่ต้องคอยสอนงานใหม่อยู่เรื่อย รวมถึงต้องไว้ใจได้ สามารถติดตามคนขับว่าทำงานไปถึงไหน สำเร็จหรือไม่ แต่ก็ยุ่งยากที่จะหาแมสเซ็นเจอร์เก่งๆ ได้สักคน และคนเก่งงานมักชุกทำให้เวลามีเรื่องส่งเอกสารด่วนคิวอาจไม่ได้ตามที่ต้องการทำให้ต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ ขณะที่อาชีพแมสเซนเจอร์ก็มีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอของงาน บางวันลูกค้าเยอะ บางวันลูกค้าน้อยหรือไม่มี ทำให้รายรับไม่แน่นอนหรือบางทีต้องไปส่งเอกสารไกลแต่ขากลับต้องวิ่งตีรถเปล่าทำให้ไม่คุ้มกับการรับงาน จากปัญหาของทั้งฝั่งลูกค้าและแมสเซนเจอร์จึงเป็นที่มาของ SKOOTAR

skootar1 1

การเริ่มธุรกิจนอกจากจะต้องหาโซลูชั่นเพื่อแก้ไข Pain Point แล้ว ยังต้องโฟกัสกลุ่มค้าให้ตรงจุดอีกด้วย สำหรับ SKOOTAR พยายามหาช่องทางเจาะตลาดแมสเซนเจอร์ในประเทศไทย ซึ่งมีผู้เล่นหลัก คือ บริษัทแมสเซนเจอร์แบบดั้งเดิม และสองคือกลุ่มแฟลตฟอร์มจากต่างชาติ แต่สำหรับ SKOOTAR ไม่ได้เกรงกลัวต่อกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่เลย เพราะมองเห็นว่าลูกค้าหลักโฟกัสไปที่ธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นงานรับ-ส่งเอกสาร ที่ต้องการความชำนาญโดยเฉพาะ และ SKOOTAR สามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาให้ลูกค้า SMEs ได้ตรงจุด

เมื่อธุรกิจตั้งไข่ได้ SKOOTAR จึงเริ่มขยายฐานลูกค้าออกไปจนตอนนี้มีกลุ่มลูกค้าหลักทั้งสิ้น 4 กลุ่มได้แก่ กลุ่มแรก คือ ลูกค้า SMEs ที่เน้นงานเอกสาร กลุ่มสอง คือ ลูกค้า e-Commerce เน้นส่งสินค้าด่วน กลุ่มสามคือ ฟู้ดเดลิเวอร์รี่และกลุ่มสี่ คือ ลูกค้าทั่วไป โดยปัจจุบันสัดส่วนการใช้บริการรับ-ส่งเอกสารมีประมาณ 40% ส่งพัสดุ 40% และส่งอาหาร 20% เพราะการวางรากฐานและก้าวไปทีละก้าวจนมั่นใจจึงทำให้ SKOOTAR ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง

MTR 9507 resize

เส้นทาง SKOOTAR ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แน่นอนว่าถนนสายสตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักเจอกับเรื่องราวที่ต้องฝ่าฟัน ผ่านขวากหนามทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้จดจำ SKOOTAR ก็เช่นเดียวกัน คุณโก้เล่าว่า ตอนเปิดตัวใหม่ๆ 1 – 2 เดือนแรกไม่มีลูกค้าเลย ตอนนั้นเป็นเพียงแค่เว็บไซต์ยังไม่มีแอปพลิเคชัน เมื่อไม่มีลูกค้าจึงสู้ด้วยการทดลองทำโฆษณาและการตลาด ปรากฏว่าได้ผล เริ่มมีลูกค้าทดลองใช้ ในตอนนั้นจึงรีบสอบถามลูกค้าเพื่อดูฟีดแบคการให้บริการว่าเป็นอย่างไร แล้วนำไปปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเริ่มต้นอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% แต่ก็ปรับไปเรื่อยๆ ค่อยเติบโตทีละนิดจนตอนนี้ SKOOTAR ให้บริการมากว่า 5 ปีแล้ว

เมื่อถามว่ามีเคล็ดลับในการทำให้เติบโตอย่างไร คุณโก้แนะนำว่า ต้องคิดอยู่เสมอว่าเงินทุนไม่เยอะ ดังนั้นต้องโฟกัสไปที่ปัญหาของลูกค้าว่าแก้ตรงจุดหรือไม่ ฟังเสียงของลูกค้าให้มาก ปรับเปลี่ยนให้เร็ว ฟีดแบคของลูกค้าหรือแมสเซนเจอร์ เหมือนไฟฉายที่คอยส่องให้เห็นว่าเดินมาถูกทางหรือเปล่า ควรไปต่อหรือปรับเปลี่ยนอย่างไร ตรงไหนต้องพัฒนา อย่าง SKOOTAR มีการเก็บ Data ทำให้เห็นข้อมูลที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้อย่างเช่น จากเดิมที่มีแต่มอเตอร์ไซค์ก็เพิ่มบริการรถสี่ล้อ ด้วยการจับมือกับสหกรณ์แท็กซี่เพื่อรับสมัครคนขับรถยนต์ เนื่องจากเห็นสัญญาณบางอย่างว่ามีความต้องการ หรือน่าจะขยายบริการไปยังหัวเมืองใหญ่ตามต่างจังหวัด ส่วนทีมแมสเซนเจอร์ก็ดูแลพวกเค้าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งการให้เช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ การทำประกันชีวิต เป็นต้น

Skootar1 2

จุดเด่น SKOOTAR

การเติบโตของ SKOOTAR อาจไม่หวือหวาเหมือนธุรกิจอื่นเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อถามว่าอะไรคือจุดเด่นทำให้สามารถยืนอยู่ท่ามกลางสนามแมสเซนเจอร์ที่มียักษ์ใหญ่ต่างชาติเข้ามายึดหัวหาด คุณโก้ตอบว่าเพราะคุณภาพบริการที่มีมาตรฐาน แมสเซนเจอร์ของเราจะเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเพราะก่อนจะออกไปปฏิบัติงานจริงต้องผ่านการฝึกอบรม และต้องสอบให้ได้ 100% จึงจะปฏิบัติงานได้ ส่วนตัวแอปพลิเคชันยังออกแบบให้ใช้งานง่ายทั้งผู้ใช้และแมสเซนเจอร์ มีฟีเจอร์ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม SMEs ที่ต้องการติดตามสถานะ ส่งงานหลายจุด หรืองานเอกสารที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ทำให้ลดข้อผิดพลาดในการจัดส่งเอกสารหรือแทบไม่มีเลย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์คนขับคนโปรดเพื่อกระตุ้นให้แมสเซนเจอร์ตั้งใจทำงานรับผิดชอบต่องาน เพราะถ้าหากมีลูกค้าประจำแล้วย่อมมีรายได้สม่ำเสมอ ส่วนลูกค้าก็สบายใจเรียกใช้งานได้สะดวกไม่ต้องกังวลใจเพราะเข้าใจกันหรือไม่ต้องสื่อสารกันใหม่ มีระบบให้คะแนนการบริการเพื่อควบคุมคุณภาพบริการโดยหากคนขับที่ได้รับคะแนนสูงโอกาสที่ระบบจะโชว์ให้ลูกค้าเห็นก่อนมีมากกว่า ทำให้คนขับต้องปรับปรุงบริการของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งปัจจุบันคะแนนเฉลี่ยการให้บริการทีมแมสเซนเจอร์ของ SKOOTAR อยู่ที่ 4.9 จากคะแนนเต็ม 5 ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีบริการครอบคลุมทั้งงานเอกสาร รับส่งพัสดุ ส่งอาหาร และมีทีมแมสเซนเจอร์มืออาชีพกว่า 10,000 คนที่พร้อมให้บริการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

  • เว็บเช็คพัสดุออนไลน์ ตรวจสอบสถานะพัสดุ ติดตามพัสดุ ได้ที่นี้ คลิกเลย >>: เช็คพัสดุ
..